คำขวัญ ประจำจังหวัด ยะลา

คำขวัญ ประจำจังหวัด
ยะลา ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน
คำว่า ยะลา มาจากภาษาพื้นเมืองเดิมว่า ยะลอ ซึ่งแปลว่า “แห” เป็นเมืองชายแดนภาคใต้ที่มีความน่าสนใจทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม เป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมของชนต่างเชื้อชาติ ทั้งไทย จีน และอิสลาม ตัวเมืองยะลามีการวางผังเมืองที่เป็นระเบียบเรียบร้อย และยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคใต้
เดิมยะลาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองปัตตานี ซึ่งเป็นเมืองขึ้นอยู่กับราชอาณาจักรไทยครั้งสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ในปี พ.ศ. 2310 หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า บรรดาหัวเมืองต่าง ๆ ในบริเวณแถบนี้ต่างก็ประกาศตัวเป็นอิสระ ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงรับสั่งให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาทยกทัพหลวงไปตีเมืองปัตตานี ในปี พ.ศ. 2351 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แยกหัวเมืองปัตตานีเป็น 7 หัวเมือง คือ เมืองปัตตานี เมืองสายบุรี เมืองหนองจิก เมืองยะหริ่ง เมืองระแงะ เมืองรามัน และเมืองยะลา สำหรับเมืองยะลานั้น มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าเมืองหลายครั้ง ก่อนที่จะมีการประกาศยุบเลิกมณฑล ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยระเบียบแห่งราชอาณาจักรสยามในปี พ.ศ. 2476 และกลายมาเป็นจังหวัดหนึ่งของไทยในที่สุด
จังหวัดยะลาเป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 4,521 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อจังหวัดสงขลา ปัตตานี นราธิวาส และประเทศมาเลเซีย เป็นจังหวัดเดียวในภาคใต้ที่ไม่มีพื้นที่ติดต่อกับทะเล พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและป่าไม้ พื้นที่ราบมีน้อย ยะลาแบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอเบตง อำเภอบันนังสตา อำเภอยะหา อำเภอรามัน อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดปัตตานี
ทิศใต้ ติดกับประเทศมาเลเซีย
ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดนราธิวาส
ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดสงขลา

   หลายๆคนคงนึกถึง อ.สุไหโกลก ที่อยู่ในจังหวัดนราธิวาสใช่มั๊ยค่ะ ไม่แปลกค่ะ เพราะว่าทางรถไฟสายใต้จะสิ้นสุดที่นี่
จริงๆแล้วอำเภอที่อยู่ใต้สุดสยามคือ อำเภอเบตง

     
คำว่า เบตง เป็นภาษามาลายูที่แปลว่าไม้ไผ่ มาจากที่ว่ามีต้นไผ่มากในพื้นที่ค่ะ ดังนั้นไผ่จึงเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเบตงเช่นกันค่ะ
อำเภอเบตงอยู่ห่างจากตัวจังหวัดยะลาประมาณ 160 กม. มีเส้นทางที่ขึ้นชื่อว่ามีทางโค้งมากที่สุด
(จริงๆเก๋ว่ามีโค้งอยู่แค่สองโค้งเองค่ะ คือโค้งซ้าย และโค้งขวา ^__^' )

  

เบตง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองในหมอก เพราะเป็นเมืองที่มีภูเขาล้อมรอบ อยู่บนเทือกเขาสันกาลาคีรีอากาศ ที่เย็นสบายและมีหมอกในตอนเช้าปกคลุมทั้วพื้นที่ของทุกๆวันตลอดทั้งปี ยิ่งเข้าช่วงฤดูฝนนะคะ ช่วงเช้าๆหากฝนไม่ตกถ้าตื่นขึ้นมาแล้วขึ้นไปบริเวณเทือกเขาสันกาลาคีรี ตรงด่านพรมแดน และหามุมดีๆก็จะพบกับทะเลหมอก (แต่อาจไม่สวยเท่าที่ภูกระดึงค่ะ)

อำเภอ เบตง เป็นเมืองที่มีสามเชื้อชาติอาศัยอยู่โดยสันติไม่ว่าจะเป็นไทย มุสลิมหรือจีน (ไม่ต้องกลัวนะคะ บ้านเก๋ปลอดภัยไม่มีระเบิด แค่บางวันมีรถถังขับผ่านหน้าบ้าน เห็นพี่ๆทหารนั่งรถเต็มคันเพื่อออกมาซื้อของกินของใช้ ^_^)
อำเภอ เบตง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว น้ำตกที่สวยงาม บ่อน้ำพุร้อน อุโมงค์ปิยะมิตร หรือใครที่ชอบความท้าทายต้อง ล่องแก่งปากบารา
แล้วยังมีของกินขึ้นชื่อ
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น