ยะลา
วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
ตัวเมืองยะลา
ตัวเมืองยะลา
อำเภอเมืองยะลา เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดยะลา ชาวบ้านที่สามารถพูดภาษามลายูได้ นิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "นีบง" ซึ่งเป็นชื่อต้นไม้ประเภทหนึ่งที่เคยมีอยู่มากมายภายในตัวอำเภอเมืองยะลาที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอเมืองยะลาตั้งอยู่ทางตอนบนของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอโคกโพธิ์และอำเภอแม่ลาน (จังหวัดปัตตานี)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอยะรัง (จังหวัดปัตตานี) และอำเภอรามัน
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอรามัน อำเภอกรงปินัง และอำเภอยะหา
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอยะหา และอำเภอสะบ้าย้อย (จังหวัดสงขลา
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอเมืองยะลาแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 14 ตำบล 81 หมู่บ้าน ได้แก่
1. สะเตง
(Sateng) - 8. หน้าถ้ำ (Na Tham) 4 หมู่บ้าน
2. บุดี (Budi) 8 หมู่บ้าน 9. ลำพะยา (Lam Phaya) 7 หมู่บ้าน
3. ยุโป (Yopo) 6 หมู่บ้าน 10. เปาะเส้ง (Po Seng) 4 หมู่บ้าน
4. ลิดล (Lidon) 6 หมู่บ้าน 11. พร่อน (Phron) 6 หมู่บ้าน
5. ยะลา (Yala) 3 หมู่บ้าน 12. บันนังสาเรง (Bannang Sareng) 6 หมู่บ้าน
6. ท่าสาป
(Tha Sap) 6
หมู่บ้าน 13. สะเตงนอก (Sateng Nok) 13 หมู่บ้าน
7. ลำใหม่
(Lam Mai) 7
หมู่บ้าน 14. ตาเซะ (Ta Se) 5 หมู่บ้าน
การปกครองส่วนท้องถิ่น
- เทศบาลนครยะลา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสะเตงทั้งตำบล
- เทศบาลเมืองสะเตงนอก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสะเตงนอกทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลลำใหม่ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลลำใหม่
- เทศบาลตำบลบุดี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบุดีทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลยุโป ครอบคลุมพื้นที่ตำบลยุโปทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลท่าสาป ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าสาปทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลลิดล ครอบคลุมพื้นที่ตำบลลิดลทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลยะลา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลยะลาทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลลำใหม่ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลลำใหม่ (นอกเขตเทศบาลตำบลลำใหม่)
- องค์การบริหารส่วนตำบลหน้าถ้ำ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหน้าถ้ำทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลลำพะยา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลลำพะยาทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลเปาะเส้ง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเปาะเส้งทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลพร่อน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลพร่อนทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลบันนังสาเรง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบันนังสาเรงทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลตาเซะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลตะเซะทั้งตำบล
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558
ประเพณีและวัฒนธรรมของคนยะลา
ประเพณีและวัฒนธรรมของคนยะลา
งานมหกรรมแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซี่ยน
เทศบาลเมืองยะลาร่วมกับชมรมผู้เลี้ยงนกเขาชวา จัดให้มีการแข่งขันนกเขาชวาเสียงชิงแชมป์อาเซี่ยนเป็นงานประจำปีของจังหวัด ณ สวนขวัญเมือง วันอาทิตย์แรกของ เดือนมีนาคม ในงานจะมีขบวนแห่โดยกลุ่มผู้เลี้ยงนกเขาชวาเสียงของ ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บรูไน และชมรมผู้เลี้ยงนกเขาชวา เสียงของทุกจังหวัดในประเทศไทย
ปัญจะสีลัต
ศิลปการแสดงพื้นบ้านพื้นเมืองของจังหวัดยะลา มีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบกับภาคอื่น ๆ เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านพื้นเมืองที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัดยะลา
ซีละ
เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของชาวไทยมุสลิม คล้ายมวยไทยแสดงกันเป็นคู่ ๆ ผู้แสดงเป็น ชายล้วนแต่งกายด้วยเสื้อคอกลมแขนสั้น นุ่งกางเกงขายาว นุ่งผ้าซอแกะสั้นเหนือเข่าทับข้างนอก โพกศีรษะ การแสดงเริ่มด้วยการประโคมดนตรี จากนั้นผู้แสดงไหว้ครูพร้อมกัน เสร็จจากการต่อสู้จะร่ายรำตามแบบซีละ เพื่ออวดฝีมือและหาจังหวะเข้าทำร้ายคู่ต่อสู้ สู้กันจนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดพิชิตคู่ต่อสู้ได้เป็นอันจบการแสดง เมื่อจบการแสดงแล้วคู่ต่อสู้จะซลามัดซึ่งกันและกัน การแสดงซีละอาจจะต่อสู้กันด้วยมือเปล่า หรือต่อสู้กันด้วยกริชที่เรียกว่า "ซีละบูวอฮ์"
การเต้นร็องเง็ง
การแสดงพื้นบ้านพื้นเมืองที่นิยมเล่นกันมาในท้องถิ่นภาคใต้ เป็นศิลปะการแสดงหมู่ประกอบด้วยผู้เต้นชายหญิงเป็นคู่กัน ความงามประการหนึ่งของการเต้นร็องเง็งคือ ความพร้อมเพรียงในการเต้น และการก้าวหน้าถอยหลังของท่าเต้น การแต่งกายในการแสดงร็องเง็ง นิยมใช้ผ้ายกสอดดิ้นเงินดิ้นทองแพรวพราว ตัดเป็นเสื้อ กางเกง แลหมวกของฝ่ายชาย และตัดเป็นเสื้อผ้านุ่งของฝ่ายหญิง เหมือนกันเป็นคณหรือคู่ละ สีตามความเห็นงานของผู้จัดแสดง สวมรองเท้าตามสมัยนิยมทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงประกอบการแสดงร็องเง็ง คือไวโอลิน รำมะนา และฆ้อง
ของฝากที่น่าสนใจจากจังหวัดยะลา
ของฝากที่น่าสนใจจากจังหวัดยะลา
แปรรูปกล้วยหิน แหล่งผลิต : ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา สถานที่ติดต่อ : นางจันทร์แรม ใหม่มงคล 4 ม.1 ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ปริมาณการผลิต : 10 กก./วัน ราคาจำหน่าย : ขายปลีก 60 – 80 บาท/กก. ขายส่ง 60 – 70 บาท/กก ทุเรียนกวน แหล่งผลิต : ต.ตาชี อ.ยะหา จ.ยะลา Tuesday, October 11, 2011ทร. 0-7327-1013 ปริมาณการผลิต : 560 กก./เดือน ราคาจำหน่าย : ขายปลีก 100 บาท/กก. ขายส่ง 80 บาท/กก. ขนมปูตู แหล่งผลิต : อ.รามัน จ.ยะลา สถานที่ติดต่อ : สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอรามัน จ.ยะลา ราคาจำหน่าย : ขายปลีก 2 บาท/ลูก กระเป๋าผ้าประดิษฐ์ด้วยมือ แหล่งผลิต : ตำบลบุดี อำเภอเมือง จังหวัดยะลา สถานที่ติดต่อ : น.ส.นูรีดา มะเระ 083-6537686 ราคาจำหน่าย : 100 - 300 บาท แหวนประดับอัญมณี แหล่งผลิต : ต.บาโงย อ.รามัน จ.ยะลา สถานที่ติดต่อ : ไม่มีข้อมูล ปริมาณการผลิต : 12 วง/วัน ราคาจำหน่าย : ขายปลีก 500 – 4,000 บาท ขายส่ง 300 – 3,500 บาท |
ประวัติจังหวัดยะลา
ประวัติ
ยะลาเดิมเป็นท้องที่หนึ่งของเมืองปัตตานี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้มีการปรับปรุงการปกครองใหม่เป็นการปกครองแบบเทศาภิบาลและได้ออกประกาศข้อบังคับสำหรับปกครอง 7 หัวเมือง รัตนโกสินทรศก 120 ซึ่งประกอบด้วยเมืองปัตตานี หนองจิกยะหริ่ง สายบุรี ยะลา ระแงะ และรามัน ในแต่ละเมืองจะแบ่งเขตการปกครองเป็นอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ต่อมาในปี พ.ศ. 2447 ประกาศจัดตั้งมณฑลปัตตานีขึ้นดูแลหัวเมืองทั้ง 7 แทนมณฑลนครศรีธรรมราช และยุบเมืองเหลือ 4 เมือง ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สายบุรี และระแงะ ต่อมา พ.ศ. 2450 เมืองยะลาแบ่งเขตการปกครองเป็น 2 อำเภอ ได้แก่อำเภอเมืองยะลาและอำเภอยะหา ต่อมา พ.ศ. 2475 ได้มีการยกเลิกมณฑลปัตตานี และในปี พ.ศ. 2476เมืองยะลาได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นจังหวัดยะลาตามพระราชบัญญัติราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2476 เรื่อง การจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาค ออกเป็นจังหวัด เป็นอำเภอ และให้มีข้าหลวงประจำจังหวัด และกรมการจังหวัดเป็นผู้บริหารราชการความหมายของชื่อจังหวัด
เหตุที่เรียกชื่อว่ายะลานั้นเพราะพระยาเมืองคนแรกได้ตั้งที่ทำการขึ้นที่บ้านยะลา คำว่า ยะลา (มาเลย์: Jala, جالا) หรือสำเนียงภาษามลายูพื้นเมืองเรียกว่า ยาลอ (มาเลย์: Jalor, جالور) แปลว่า "แห" ซึ่งเป็นคำยืมมาจากภาษาบาลี-สันสกฤตว่า ชาละ หรือ ชาลี หมายถึง "แห" หรือ "ตาข่าย"[3] มีภูเขาลูกหนึ่งในเขตอำเภอเมืองยะลามีลักษณะเหมือนแหจับปลา โดยผูกจอมแหแล้วถ่างตีนแหไปโดยรอบ ผู้คนจึงเรียกผู้เขานี้ว่า ยะลา หรือ ยาลอ แล้วนำมาตั้งนามเมือง[3]
แต่ตามประวัติศาสตร์ซึ่งได้เขียนไว้ในสมัยเจ็ดหัวเมือง โดยเจ้าผู้ครองเมืองเดิมได้เขียนไว้เป็นประวัติศาสตร์เป็นภาษามลายูว่า “เมืองยะลา” เป็นสำเนียงภาษาอาหรับ โดยชาวอินโดนีเซียที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาอิสลามในบริเวณเจ็ดหัวเมืองซึ่งอยู่ในแหลมมลายูเป็นผู้ตั้งชื่อเมืองไว้
เมืองยะลาเดิมตั้งอยู่ใกล้ภูเขายาลอ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองยะลาปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร ต่อมาเมืองยะลาได้ยกฐานะเป็นเมือง ๆ หนึ่งของบริเวณเจ็ดหัวเมือง คำว่าเมืองยะลาหรือยาลอ ยังคงเรียกกันจนถึงปัจจุบันนี้
และประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมลายูถึงร้อยละ
66.1 นอกจากนั้นก็จะมีชาวไทยพุทธ, ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวซาไก
ซึ่งตั้งถิ่นฐานในเขตหมู่ 3 ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต
แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่ได้อพยพไปอยู่ในมาเลเซีย
ด้วยเหตุผลด้านที่ทำกินและวิถีชีวิตที่ดีกว่า ประกอบกับเหตุผลด้านความไม่สงบ
จังหวัดยะลาเป็นหนึ่งในสี่จังหวัดของไทยที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
ร้อยละ 75.42 รองลงมาคือศาสนาพุทธร้อยละ 24.25 และศาสนาอื่น ๆ ร้อยละ 0.33
มีมัสยิดทั้งหมด 453 แห่ง, วัดในพุทธศาสนา 45 แห่ง โบสถ์คริสต์
6 แห่งและคุรุดวาราศาสนาซิกข์ 1 แห่ง
การปกครองแบ่งออกเป็น 8
อำเภอ 56 ตำบล 341
หมู่บ้าน
-อำเภอเบตง
-อำเภอบันนังสตา
-อำเภอธารโต
-อำเภอยะหา
-อำเภอรามัน
-อำเภอกาบัง
-อำเภอกรงปีนัง
-อำเภอกรงปีนัง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)